top of page

สามชุกตลาด 100 ปี

 

สามชุก ตลาด 100 ปี แห่งนี้เป็นตลาดเก่าแก่และมีชื่อเสียงในระดับโลก โดยได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่ดี จากองค์กรการการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) 

 

เสน่ห์ของการเยี่ยมชมตลาดสามชุก คือการได้เดินชมความคลาสิคและความเก่าแก่ของบ้านไม้อายุนับร้อยปี ศิลปะตกแต่งอาคารไม้โบราณ ลวดลายฉลุไม้ที่เรียกว่าลายขนมปังขิง ซึ่งเท่าที่พบในตลาดนี้มีถึง 19 ลาย ซึ่งหาดูได้ยากแล้วในปัจจุบัน, แบบห้องแถวซึ่งมีทั้งชั้นเดียวและสองชั้น, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อันยาวนานของตลาดสามชุก รวมทั้งรับประทานอาหารอร่อยๆซึ่งมีให้ชิมตลอดทาง


สามชุก ตลาด 100 ปี เปิด 08:00-05:00 ทุกวัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโทร    0 3557 1571 หรือเยี่ยมชม www.samchuk.in.th

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ

 

บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เป็นบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่  มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,700 ไร่ อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองสุพรรณประมาณ 64 กิโลเมตร บึงฉวากมี

พื้นที่ติดต่อกับอำเภอหันคา จังหวัดชัยนาทและอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนที่อยู่ในเขตอำเภอเดิมบางนางบวชมีพื้นที่ประมาณ 1,700 ไร่  

 

สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ เป็นหน่วยงานหนึ่งของโครงการ

บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2538 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองสิริราช

สมบัติครบรอบ 50 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 

ภายในอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำรวบรวมพันธุ์ปลาน้ำจืด ปลาสวยงามและพันธุ์ปลา

หายากเอาไว้ให้ประชาชนได้ศึกษา แบ่งเป็น 3 อาคาร,  อาคารที่ 1 จัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืดและสัตว์น้ำเค็ม ทั้งพันธุ์ปลาไทย  และพันธุ์ปลาต่างประเทศกว่า 50 ชนิด

 

อาคารที่ 2 ประกอบด้วยตู้ปลาขนาดใหญ่สวยงามบรรจุน้ำได้กว่า  400 ลูกบาศก์เมตร และมีอุโมงค์ความยาวประมาณ 8.5 เมตร ผู้ชมสามารถเดินลอดผ่านใต้ตู้ปลาได้บรรยากาศเหมือนอยู่ใกล้สัตว์น้ำ ซึ่งถือว่าเป็นอุโมงค์ปลาน้ำจืดแห่งแรกของประเทศไทย

 

อาคารที่ 3 จัดแสดงพันธุ์ปลาทะเลมากมายหลายชนิดให้ได้ชมกัน มีตู้ปลาขนาดใหญ่ และตู้ปลารูปทรงแปลกตา รวมทั้งตื่นตาตื่นใจกับอุโมงค์ปลา และบันไดเลื่อน ขนาดความยาว 75 เมตร

 

นอกจากนี้บึงฉวากมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น บ่อจระเข้น้ำจืด สวนสัตว์และร้านขายของที่ระลึกที่คุณสามารถซื้อของที่ระลึก

 พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร

 

พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (อุทยานมังกรสวรรค์) ตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ สุพรรณบุรี ห่างจากฝั่งแม่น้ำไปตามถนนมาลัยแมน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี

 

ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง เนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2539 ขณะที่ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย

 

ด้วยความยาว 100 เมตร สูง 35 เมตร และกว้าง 18 เมตร ภายในตัวมังกรได้จัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของชาวจีนในประเทศไทย ประวัติศาสตร์และอารยธรรมจีน ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็น อารยธรรมที่เก่าแก่และ สำคัญ ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งมีอายุยาวนานถึง 5,000 ปี

 

ตลอดจนเหตุการณ์และบุคคลสำคัญ สิ่งประดิษฐ์สำคัญ รวมถึงคุณธรรม คติธรรมในการดำรงชีวิต  นำเสนอด้วยสื่อผสม (มัลติมีเดีย)   ซึ่งถือเป็น พิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์อารยธรรมจีนที่ถูกต้อง และทันสมัยที่สุดในประเทศไทย

 

พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ หยุดทุกวันจันทร์และวันอังคาร เปิดให้เข้าชมวันละ 7 รอบๆ ละประมาณ หนึ่งชั่วโมงกว่า

รอบแรก เวลา 10.00 น.รอบสุดท้ายเวลา16.00 น. ค่าเข้าชมชาวไทย ผู้ใหญ่ 299 บาท เด็ก 149 บาท ชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ 499 บาท เด็ก 299 บาท

โทร. 0 3522 6211

สถานที่ท่องเที่ยว

หอคอยบรรหาร-แจ่มใส

 

หอคอยบรรหาร-แจ่มใส ตั้งอยู่ในสวนเฉลิมภัทรราชินี เป็นหอคอยชมวิวแห่งแรก และสูงที่สุดในประเทศไทยมองเห็นโดดเด่นอยู่กลางเมือง มีความสูงถึง 123.25 เมตร ฐานกว้าง 30 เมตร การขึ้นเที่ยวชมหอคอย จะมีจุดแวะพักชมวิว 4 ชั้น


ชั้นที่ 1 เป็นที่จำหน่ายบัตรและของที่ระลึก


ชั้นที่ 2 เป็นร้านจำหน่ายเครื่องดื่มอาหารว่างและจุดนั่งชมสวน


ชั้นที่ 3 เป็นร้านจำหน่ายของที่ระลึกและจุดชมตัวเมือง

 
ชั้นที่ 4 อยู่ในระดับสูงสุด 78.75 เมตร เป็นจุดชมทิวทัศน์ของจังหวัดสุพรรณบุรีโดยรอบ มีกล้องส่องทางไกลบริการ ผนังห้องแสดงภาพวาดสีน้ำมันเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  

 

หอคอยบรรหาร-แจ่มใส  เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันจันทร์ ตามวันและเวลาดังนี้

 

วันอังคาร-ศุกร์   เวลา  10.00-19.00  น.  
วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์   เวลา  10.00-20.30  น.

อัตราค่าขึ้นชม  (ก่อน 18.00 น.)   ผู้ใหญ่ 30 บาท   เด็ก 15 บาท
อัตราค่าขึ้นชม  (หลัง 18.00 น.)    ผู้ใหญ่ 40 บาท   เด็ก 20 บาท

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 

โทร. 0 3552 2721, 0 3552 4060-4 และสำนักงานเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี โทร. 0 3551 1987, 0 3551 1021 โทรสาร. 0 3552 2973

 

 

หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย

 

หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย (บ้านควาย-สุพรรณบุรี) ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 70 ไร่ ติดถนนทางหลวงหมายเลข 340 ซึ่งเป็นถนนสายหลักของอำเภอศรีประจันต์ และจังหวัดสุพรรณบุรี 

 

บ้านควาย – สุพรรณบุรี ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และรักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมซื่งเป็นมรดกของประเทศไทย ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีการดำรงชีวิตของชาวไทยชนบทในสมัยก่อนซึ่งมีความสัมพันธ์ และเชื่อมโยงกับควาย
 

บ้านควาย เปิดทุกวัน เวลา 9.00 น. – 18.00 น. ผู้เข้าเยี่ยมชมบ้านสามารถสัมผัสกับวิถีการดำเนินชีวิตแบบย้อนยุค และกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ เช่น การทำนาในแบบโบราณที่ยังใช้แรงงานจากควายและอุปกรณ์การทำนาแบบโบราณ 

 

นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าเยี่ยมพื้นที่จำลองในการแบ่งสันส่วนพื้นที่ทำเกษตกรรม ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มหาราช  และสวนผีเสื้อนานาพันธุ์ สวนกล้วยไม้ หมู่บ้านชาวนา และสวนสมุนไพร

วัดป่าเลไลย์วรวิหาร

 

วัดป่าเลไลย์วรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่ามีอายุราว1200 ปี สร้างในสมัยที่เมืองสุพรรณบุรีรุ่งเรือง วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีระดับวรวิหาร หน้าบันของวิหารวัดป่าเลไลยก์ มีเครื่องหมายพระมหามกุฎอยู่ระหว่างฉัตรคู่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จธุดงค์มาพบสมัยยังทรงผนวชอยู่เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วจึงทรงมาปฏิสังขรณ์

 

วัดตั้งอยู่ที่ ถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำสุพรรณบุรี ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่าวัดป่า จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 6:00-17:00 น.

 

ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ศิลปะสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิ (คือประทับนั่งห้อยพระบาท) องค์พระสูง 23.46 เมตรรอบองค์  ภายในองค์พระพุทธรูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 36 องค์ ที่ได้มาจากพระมหาเถรไลยลาย

 

รอบๆวิหารของหลวงพ่อโตมีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวของขุนช้าง-ขุนแผนตั้งแต่เริ่มเรื่องจนถึงตอนสุดท้ายเป็นภาพที่สวยงามและได้ความรู้ นอกจากนั้น ยังมีเรือนขุนช้าง  เป็นเรือนไทยแบบโบราณตั้งอยู่ภายในบริเวณวัด สร้างเป็นเรือนไทยไม้สักหลังใหญ่กว้างขวาง ตามเรือนของขุนช้าง ในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ขึ้นไปบนเรือนจะเห็นภาพวาดตัวละครขุนช้าง นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแต่ละห้องจะมีภาพบรรยายเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผนมีการจัดแสดงเครื่องใช้ต่างๆในสมัยก่อนมีการตกแต่บริเวณโดยรอบสวยงามน่าเที่ยวชม

We Accept
  • Instagram Social Icon
  • Google+ Clean
  • Facebook Clean
  • Pinterest Clean
  • LinkedIn Clean
Address

 

5 Moo 10, Banrai Donklang Soi 8,

T. Nang Buat, A. Doem Bang Nang Buat,

Suphan Buri, Thailand 72120

Lat : 14.815046

Long : 100.113308

Contact Us

 

Tel : +6694-287-9354, +6687-699-5999

Email : tharnrarin@gmail.com

Line   : 0876995999

bottom of page